นับเป็นสถานการณ์ร้ายแรงที่อยู่ใกล้ตัวทุกคนมาก ๆ สำหรับการระบาดของโรค COVID-19 หรือโคโรนาไวรัส ซึ่งติดต่อกันได้ง่ายและมียอดผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน จึงอยากให้ทุกคนตระหนักถึงการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคร้ายนี้ ด้วยการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ และทำความสะอาดที่อยู่อาศัย รวมถึงรถยนต์ที่ต้องขับอยู่ทุกวัน

โชคดีที่การทำความสะอาดรถยนต์จากเชื้อโคโรนาไวรัสไม่ได้มีความซับซ้อนมากมายขนาดนั้น แค่เพิ่มขั้นตอนนิดหน่อย และเลือกให้ผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้องเท่านั้นเอง ซึ่งต้องความเข้าใจในเรื่องใดบ้าง มาดูกันเลยครับ…

1. ล้างมือทุกครั้งก่อนขับรถ

การล้างมือ คือวิธีป้องกันเชื้อโคโรนาไวรัสได้ดีที่สุด ! เนื่องจาก COVID-19 สามารถอาศัยอยู่บนร่างกาย ผิวหนัง หรือวัสดุต่าง ๆ ได้นานหลายวัน และมือเป็นส่วนที่ต้องสัมผัสกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในรถตลอดเวลา เพื่อลดการแพร่กระจายหรือการสะสมของเชื้อไวรัส จึงแนะนำว่าควรล้างมือให้สะอาดด้วยเจลแอลกอฮอล์หรือสบู่ก่อนเข้าไปภายในตัวรถทุกครั้ง

2. หมั่นล้างรถยนต์เป็นประจำ

เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่า ขณะที่จอดอยู่มีใครมาสัมผัสรถยนต์ของเราบ้าง รวมถึงผู้โดยสารคนอื่น ๆ หรือพนักงานในสถานีบริการน้ำมันมีใครติด COVID-19 อยู่หรือไม่ ดังนั้นช่วงนี้ต้องหมั่นล้างรถเป็นประจำ เพื่อป้องกันเชื้อโคโรนาไวรัสติดสะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ

สำหรับการล้างรถ หากเป็นไปได้แนะนำให้สวมถุงมือแบบใช้แล้วทิ้ง เพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับจุดเสี่ยงโดยตรง เช่น มือจับประตู ฝาปิดถังน้ำมันและกระจกข้าง โดยใช้น้ำยาหรือแชมพูล้างรถทำความสะอาดได้ตามปกติเลย เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีคุณสมบัติในการกำจัดไขมัน คราบสกปรกได้ดีอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตามไม่ควรล้างรถด้วย ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน สบู่ หรือสารฟอกขาว เนื่องจากมีฤทธิ์เป็นกรด แม้จะมีประสิทธิภาพในการทำความสะอาดสูง แต่ส่งผลเสียทำให้แล็กเกอร์หลุดออกตามไปด้วย

3. ทำความสะอาดภายในด้วยสบู่

ภายในห้องโดยสารต้องระวังให้ดี แนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้สารฟอกขาว แอลกอฮอล์ เพราะสารเหล่านี้จะส่งผลให้พื้นผิว หรือวัสดุต่าง ๆ เกิดรอยด่างและเสื่อมสภาพ โดยสิ่งที่เหมาะสำหรับใช้ทำความสะอาดด้านในรถมากที่สุดคือ สบู่ !

โดยสบู่จะทำปฏิกิริยากับ COVID-19 ในแบบเดียวกับที่ทำกับน้ำมัน แต่ไม่ทำลายชิ้นส่วนต่าง ๆ ภายในรถ วิธีทำความสะอาดง่าย ๆ แค่ใช้สบู่ผสมกับน้ำ ไปเช็ดตามแดชบอร์ด ประตู พวงมาลัย และเบาะนั่ง ทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาที แล้วเช็ดออกให้แห้ง

เพื่อความชัวร์ว่าแชมพูหรือสบู่ที่ใช้เหมาะกับวัสดุของรถตัวเองหรือเปล่า ให้ลองนำไปใช้ในจุดอับสายตาดูก่อน ทิ้งไว้สักพักแล้วสังเกตดูว่าชิ้นส่วนตรงนั้นมีรอยด่างเกิดขึ้นหรือไม่ เมื่อมั่นใจแล้วค่อยนำไปใช้ในส่วนอื่น ๆ ทีหลังก็ได้

4. อย่าลืมเบาะนั่งและพรมปูพื้นด้วย

เบาะนั่งและพรมปูพื้น อีกหนึ่งจุดสะสมเชื้อไวรัสที่ไม่ควรมองข้าม สำหรับพรมปูพื้นรถยนต์นั้น สามารถนำออกมาเคาะฝุ่นซักได้ตามปกติ ในส่วนของเบาะนั่งแบบหุ้มหนังให้ใช้สบู่ผสมน้ำเช็ดตามข้อข้างบนได้เลย

ทั้งนี้เบาะนั่งแบบผ้า จะมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย โดยหลังจากใช้โฟมทำความสะอาดเบาะแล้ว แนะนำให้ฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรคตามอีกทีและควรหันหน้าผึ่งแดดไว้จนกว่าจะแห้งสนิท

5. ฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อในอากาศ

ไม่ใช่แค่อุปกรณ์และชิ้นส่วนต่าง ๆ ที่เราสัมผัสเท่านั้น ในอากาศก็มีเชื้อโคโรนาไวรัสด้วยเช่นกัน ซึ่งมันสามารถอยู่ได้นานเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว ทางที่ดีอย่าประมาท ลงทุนฉีดสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคในอากาศปิดท้ายอีกสักหน่อย เพื่อลดความเสี่ยงให้เหลือน้อยที่สุด

โคโรนาไวรัส หรือ COVID-19 นั้นน่ากลัวและติดต่อกันง่ายกว่าที่คิด แถมมีความรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้เลย ทุกคนจึงควรให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดรถยนต์ของตัวเอง เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวและบางคนต้องใช้งานเกือบทุกวัน รวมถึงอย่าลืมล้างมือให้สะอาด ใส่หน้ากากอนามัยควบคู่กันไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสเข้าสู่ร่างกายและป้องกันคนรอบข้างไปในตัว

ข้อมูลจาก : caranddriver.com, autoblog.com


เคล็ดลับล่าสุด