คนใช้รถยนต์ทุกคนย่อมทราบดีกันแล้วว่า สไตล์การขับรถของคุณนั้นเป็นแบบไหน สิงห์ความเร็ว เน้นขับนุ่ม หรือสมบุกสมบัน แล้วทราบหรือไม่ว่า ประเภท ยางรถยนต์ ที่เราใช้กันอยู่ เหมาะสมกับกับการขับขี่ของเราหรือไม่ หลายคนบอกว่า แน่นอน เราทราบดีว่าเหมาะหรือไม่เหมาะ เพราะเราเลือกมากับมือ แต่อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างที่เราหลงลืมกันไป หากวันหนึ่ง สายคอมฟอร์ท อยากประลองขับซิ่ง จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราไม่ทราบว่ายางรถยนต์ของเรา วิ่งเร็วที่สุดได้แค่ไหน หรือสายสมบุกสมบันอยากลองซิ่งดูบ้าง จะเกิดอะไรขึ้นหากยางรถยนต์ของเรา รองรับความเร็วไม่เท่าสเปกที่กำหนดไว้
ในวันนี้เราจะมาพูดกันในหัวข้อ คนรักความเร็วต้องรู้ เช็กก่อนใช้ ยางรถยนต์ของเราเราวิ่งได้เร็วสุดแค่ไหน?
มารู้จักยางรถยนต์ที่มีการกำหนดความเร็วกันในหลายๆแง่มุม มาทราบความรู้ดีๆ แล้วเลือกยางขับขี่ให้เหมาะสมนะครับ
เราทำความรู้จักกันก่อนว่า ยางรถยนต์ ที่เราคุ้นชินกัน มันมีด้วยกันกี่ประเภท
- Summer Tires ยางประเภทนี้ ออกแบบมาสำหรับการขับรถในสภาพอากาศแห้งและอุณหภูมิสูง มีความยืดหยุ่นดีในอุณหภูมิร้อนและมีประสิทธิภาพในการเรียนถนนแห้ง.
- All-Season Tires ยางนี้ออกแบบมาเพื่อให้ประสิทธิภาพในสภาพอากาศและถนนแบบหลากหลาย เหมาะสำหรับการใช้งานประจำวัน.
- Winter Tires ยางนี้ออกแบบมาเพื่อการขับรถในสภาพอากาศหนาวและถนนแห้งหรือหิมะ มีดอกยางที่ช่วยเสริมสมรรถนะในสภาพน้ำแข็ง.
- Studded Tires ยางนี้มีขุมกลางล้อที่มีตะปูทำจากโลหะ เพื่อเพิ่มการเกาะและความประสิทธิภาพในการขับรถในสภาพหิมะและถนนเย็น.
- Performance Tiresยางนี้ออกแบบมาเพื่อการขับรถที่มีความเร็วและประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับรถยนต์สปอร์ตหรือรถที่ต้องการประสิทธิภาพทางการขับขี่.
- All-Terrain Tires ยางนี้ออกแบบมาเพื่อการขับรถในสภาพถนน และเส้นทางป่า หรือที่สูง มีความยืดหยุ่นในการขับขี่
- Off-Road Tiresยางนี้ออกแบบมาเพื่อใช้ในการขับรถออฟโรด มีการออกแบบเฉพาะเพื่อเสริมความเกาะและความทนทานในสภาพอุณหภูมิสูง.
นอกจากนี้ยังมีประเภทยางอื่น ๆ ที่มีความพิเศษหรือเหมาะสำหรับการใช้งานเฉพาะ เช่นยางสำหรับรถยนต์แข่งขัน, ยางสำหรับรถยนต์แทรกเตอร์, ยางสำหรับรถยนต์ทางบก, และอื่น ๆ อีกมากมาย การเลือกยางที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับการใช้งาน
ข้อสงสัยที่ 2 ในการขับขี่ในขณะที่ยางสัมผัสถนน ย่อมทำให้เกิดความร้อน จะส่งผลถึงประสิทธิภาพการขับขี่หรือไม่ แล้วยางแต่ละประเภทสามารถทนความร้อนได้มากน้อยแค่ไหน และความร้อนที่เกิดขึ้นจากรถ มาจากที่ไหนได้บ้าง?
- เครื่องยนต์: เครื่องยนต์ของรถยนต์ทำงานโดยเผาน้ำมันเชื้อเพลิงในห้องเผาเพื่อสร้างพลังงานในการขับเคลื่อนรถ การเผาน้ำมันเชื้อเพลิงนี้สร้างความร้อนมากเมื่อเปิดเครื่องขับเคลื่อนและทำงานอยู่.
- ระบบเบรก: ระบบเบรกใช้แรงเสียดทานเพื่อหยุดหรือลดความเร็วของรถ. การใช้เบรกอาจสร้างความร้อนในอุปกรณ์เบรก เช่น จานเบรกและปั๊มเบรก.
- ยางรถ: ยางรถยนต์ทำงานโดยมีการหมุนและสัมผัสกับพื้นถนน. การสัมผัสนี้ทำให้ยางร้อนขึ้น และอาจมีความร้อนในยางรถยนต์สามารถเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยของการขับขี่
- การสัมผัสกับถนน: ยางรถยนต์สัมผัสกับพื้นถนนเมื่อรถขับไป บนถนนที่ร้อนอาจเพิ่มความร้อนในยาง.
- ความแตกต่างของอุณหภูมิ: อุณหภูมิสภาพอากาศมีผลต่อความร้อนในยาง ยางมักเป็นส่วนของรถที่มีอุณหภูมิสูงกว่าสภาพอากาศโดยรอบ และอุณหภูมินี้สามารถเพิ่มความร้อนในยางได้.
- ความเร็วของรถ: การขับรถที่ความเร็วสูงสามารถสร้างความร้อนมากขึ้น.
- การท้ายแกน (Braking): การใช้เบรกขณะขับรถสร้างความร้อนในจานเบรกและยางเบรก ยางที่ไม่ได้รักษาและดูแลอย่างเหมาะสมอาจมีความสัมผัสกับถนนที่ไม่เหมาะสม ทำให้ร้อนมากขึ้น.
- แรงดันในล้อ: ความดันในล้อสามารถสร้างความร้อนในยางเนื่องจากการหมุนของล้อ.
การรักษาและการดูแลรักษายางรถยนต์อย่างเหมาะสม เช่น การตรวจสอบและปรับความดันในล้อ และการเลือกยางที่เหมาะสมสำหรับสภาพถนนและสภาพอากาศ จะช่วยลดความร้อนในยางและเพิ่มประสิทธิภาพของการขับขี่ของคุณในรถยนต์ได้.
ยางแต่ละประเภทมีการออกแบบและสมรรถนะที่แตกต่างกันเพื่อรองรับการขับขี่ในสภาพแวดล้อมและการใช้งานที่แตกต่างกัน ฉะนั้นความเร็วที่ยางสามารถรองรับได้จะขึ้นอยู่กับลักษณะและการออกแบบของยางนั้นๆ และมีการระบุความเร็วสูงสุดที่ยางสามารถใช้ได้เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการขับขี่.
ทำไมถึงมีการกำหนดค่าดัชนีระบุความเร็ว
ซึ่งการจัดค่าดัชนีระบุสัญลักษณ์ความเร็วบนยางรถยนต์ เป็นผลจากการทดสอบในห้องปฏิบัติการ โดยจำลองความเร็วและน้ำหนักบรรทุก การที่จะได้รับค่าดัชนีสัญลักษณ์ความเร็วของยางนั้นต้องผ่านการทดสอบสมรรถนะ แสดงให้เห็นว่าสามารถรองรับความเร็วได้โดยเฉพาะ ซึ่งต้องผ่านการควบคุมตามมาตรฐานอุตสาหกรรมและสามารถรักษาความเร็วตามกำหนดในระหว่างการทดสอบ
อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือ ต้องจำไว้ว่าห้องทดลองไม่สามารถจำลองสถานการณ์ได้ทุกอย่างโดยเฉพาะสถานการณ์จริงบนถนนที่มีหลายปัจจัยต่อการขับขี่ การพิจารณาการให้คะแนนดัชนีระบุความเร็วของยาง เป็นตัวบ่งชี้ความสามารถของผลิตภัณฑ์ภายใต้สภาวะที่ควบคุมได้ (เช่น การเติมลมยางที่เหมาะสม การขับรถที่เหมาะสม การใช้งานในสภาพอากาศที่ดี เป็นต้น)
ตัวอย่างสัญลักษณ์ดัชนีความเร็วของยางทั่วๆ ไป
สัญลักษณ์ดัชนีความเร็วต่อไปนี้เป็นสิ่งที่คุณจะพบสำหรับรถยนต์ทั่วไป เริ่มต้นด้วยความเร็วสูงสุดที่ 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ การระบุด้วยตัวอักษรยางรถยนต์ คือการจัดอันดับอัตราดัชนีสัญลักษณ์ความเร็วแต่ละประเภทจะสอดคล้องความเร็วที่ระบุ
- ดัชนีอัตราความเร็ว T ดัชนีสัญลักษณ์ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คุณจะพบตัวอักษร T สำหรับรถครอบครัวและรถมินิแวน
- ดัชนีอัตราความเร็ว H หากคุณจำได้ ตัวอักษร H จะไม่ปรากฏขึ้นหลังตัวอักษร G แต่กลับเป็นค่าระบุความเร็วที่อยู่ระหว่าง U และ V ซึ่งหมายถึง ดัชนีสัญลักษณ์ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยปกติจะระบุสำหรับรถสปอร์ตและรถสองประตู ตั้งแต่แรกระบบการให้ค่าดัชนีสัญลักษณ์ความเร็วระบุว่า H หมายถึง “High Performance (สมรรถนะสูง)” ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงยังคงใช้ดัชนีนี้แทนค่าความเร็วสูงจนทุกวันนี้
- ดัชนีอัตราความเร็ว V จากเดิมอัตราความเร็วสูงสุดของสมรรถนะยาง กำหนดด้วยตัวอักษร V แทนค่าดัชนีสัญลักษณ์ความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือมากกว่านั้น แต่ในปัจจุบันกลับหมายถึงค่าความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเท่านั้น ไม่เกินกว่านี้
- ดัชนีอัตราความเร็ว W ปัจจุบันมีการเพิ่มดัชนีกำหนดความเร็วของยางใหม่ ด้วยตัวอักษร W แทนค่าความเร็วสูงสุดที่ 270 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ดัชนีอัตราความเร็ว Z มีความหมายพิเศษแตกต่าง โดยมักหมายถึงยางรถยนต์ประสิทธิภาพสูงสำหรับรถสปอร์ตที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งตัวอักษร Z อาจปรากฏอยู่ตรงกลางของข้อมูลขนาดยางเมื่อเป็นเช่นนี้ จะหมายถึงการแสดงค่าความเร็วสูงสุด ทั้งค่ามากกว่า 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก็ได้ ซึ่งความเร็วดังกล่าว ขึ้นอยู่กับสมรรถนะที่ระบุเฉพาะของยาง สามารถติดต่อผู้ผลิต เพื่อขอทราบรายละเอียดเกี่ยวกับยางที่ระบุตัวอักษร Z ซึ่งผู้เป็นเจ้าของรถสปอร์ตจะพบดัชนีอัตราความเร็วเช่นนี้ มากกว่าเจ้าของรถครอบครัว เลือกดัชนีอัตราความเร็วของยางที่สอดคล้องกับข้อกำหนดของผู้ผลิตรถยนต์ของคุณเสมอ และตรวจสอบให้แน่ใจว่ายางทั้ง 4 เส้นมีดัชนีกำหนดความเร็วของยางเดียวกัน ดัชนีกำหนดความเร็วของยางขึ้นอยู่กับการทดสอบทางห้องปฏิบัติการภายใต้สภาวะควบคุมเฉพาะ ถึงแม้ว่าการทดสอบเหล่านี้เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพบนท้องถนนภายใต้เงื่อนไขดังกล่าว แต่โปรดจำไว้ว่าการขับขี่ในชีวิตจริงจะไม่เหมือนกับเงื่อนไขการทดสอบทั้งหมด
รู้หรือไม่! ว่ายางแต่ละประเภทมีขีดความสามารถในการรองรับความเร็วไม่เท่ากัน
ยางรถแข่งยางสนาม ถูกออกแบบมาให้มีสมรรถนะรองรับการขับขี่ด้วยความเร็วสูง ซึ่งมีค่าขีดความสามารถในระดับ V-Y ที่รองรับการใช้ความเร็ว 240-270 กม./ชม. ที่โดยส่วนใหญ่ยางประเภทนี้จะมีคุณสมบัติยึดเกาะถนนเยี่ยม เข้าโค้งด้วยความเร็วสูงได้ดี
รถเก๋ง และรถ SUV เป็นรถครอบครัวที่ใช้งานในชีวิตประจำวันได้สะดวกสบาย ส่วนมากรถสองประเภทนี้จะใช้ยางที่มีค่าความเร็วในระดับ T-V ที่มีขีดความสามารถรองรับความเร็วได้ 190-240 กม./ชม. เท่านี้ก็เพียงพอแล้วต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ของคนขับรถหัวใจสปอร์ต
สาย Off Road เน้นลุยอย่างช้า ๆ แต่ไปได้ทุกทาง ยางประเภท Off Road เป็นยางที่ไม่เน้นการขับขี่เร็ว ด้วยดอกยางที่ใหญ่จะมีความสามารถในการลุยทางทุรกันดารมากกว่าการขับเร็ว โดยค่าความเร็วของยางประเภทนี้จะอยู่ในระดับ N-Q รองรับการทำความเร็วได้ 140-160 กม./ชม. ตามเสน่ห์ของ Off Road คือเน้นลุย ไม่เน้นเร็ว
ยางที่ขับในความเร็วมากๆได้ ต้องมีลักษณะอย่างไร?
ยางที่เหมาะสำหรับการขับในความเร็วมากๆ จะมีลักษณะและคุณสมบัติเฉพาะที่ช่วยให้มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการขับขี่ที่ความเร็วสูงมากขึ้น.
Tread Pattern ยางที่ออกแบบมาสำหรับความเร็วสูงมักมีลายที่ช่วยให้มีการสัมผัสถนนมากขึ้นและมีประสิทธิภาพในการทำความเร็วสูง. ดอกยางประเภทนี้อาจมีส่วนที่เสริมความแข็งเพื่อรองรับแรงการเบรกในความเร็วสูง.
ความแข็งของยาง (Tire Compound): ยางสำหรับความเร็วสูงมักมีส่วนผสมของยางที่มีความแข็งและความยืดหยุ่นเหมาะสำหรับความเร็วสูง ส่วนผสมนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสัมผัสถนน.
การระบายความร้อน (Heat Dissipation): ยางสำหรับความเร็วสูงมักมีการออกแบบพิเศษในการระบายความร้อนออกจากยาง เนื่องจากการขับรถความเร็วสูงสร้างความร้อนมาก การระบายความร้อนอย่างเหมาะสมช่วยรักษาความเย็นในยางและป้องกันการสึกหรอ.
โครงสร้าง (Construction): ยางสำหรับความเร็วสูงมักมีโครงสร้างที่แข็งแรงและความยืดหยุ่นในพื้นที่ที่เสียดทาน ที่มีการเสริมความแข็งแรงด้วยสายเส้นเพิ่มเติมหรือชั้นผ้าใบในโครงสร้าง.
รองรับน้ำฝนหรือหารรีดน้ำ (Wet Grip): ยางที่เหมาะสำหรับความเร็วสูงยังควรมีความสามารถในการรับมือกับถนนเปียก เพื่อความปลอดภัยในสภาพอากาศฝนตก.
การเหินน้ำ: ยางที่ออกแบบมาสำหรับความเร็วสูงมักมีการรับมือกับสภาวะการขับรถบนพื้นถนนเปียกเพื่อลดความเสี่ยงจากอาการ Aquaplaning หรือการลื่นเลื่อนบนพื้นถนนเปียก.
การเลือกยางที่เหมาะสมสำหรับความเร็วสูงมีความสำคัญเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการขับขี่
แล้ว ยางรถยนต์Toyo แต่ละประเภทมีประสิทธิภาพในการขับขี่ความเร็วเท่าไหร่กันบ้าง วันนี้จะมาแนะนำยางในแต่ละประเภทให้ได้ดูกันครับ
ส่งตรงสายพันธุ์จากสนามแข่งสู่ท้องถนน ด้วยความเร้าใจใหม่นำเสนอสมรรถนะในระดับสูงสุดของยางรถยนต์ PROXES R1R คือยางที่ไม่มีการประนีประนอมต่อความเร้าใจในสมรรถนะ การออกแบบที่มุ่งเน้นโดยเฉพาะต่อการเกาะถนน การควบคุมและการตอบสนองต่อการบังคับเลี้ยว
ยางรุ่นนี้มีดัชนีความเร็วและLoad index อยู่ที่ 82V นั่นคือ ความเร็วสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมงหรือมากกว่านั้น จัดอยู่ในยาง Sport car นั่นเองครับ
PROXES RR DOT Competition Tire เป็นยางที่ออกแบบเพื่อการแข่งขันบนถนนแห้งเท่านั้นและมีประสิทธิภาพระดับ world-class ด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง โดยตลอดอายุการใช้งาน ของยางสามารถควบคุมการขับขี่ได้อย่างมั่นใจและสามารถ ประมาณการระยเวลาต่อรอบได้อย่างแม่นยำ ด้วยการออกแบบ 2 ร่องยางแบบสมมาตรที่มีการกำหนดความกว้างและความลึก ของร่องยางอย่างเหมาะสมทำให้ได้พื้นที่สัมผัสถนนสูงสุดและ
ส่วนผสมพิเศษของเนื้อยางบริเวณหน้ายางที่ให้การยึดเกาะถนน แห้งทั้งทางตรงและทางโค้งที่ยอดเยี่ยม
ยางรุ่นนี้มีดัชนีความเร็ว Z หมายถึงสามารถทำความเร็วสูงสุด มากกว่า 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
NEW SPEC PROXES R888 R ที่สุดของเทคโนโลยี และการพัฒนา ประสิทธิภาพการยึดเกาะ ถนนและการควบคุมที่เฉียบคม แม่นยำบนพื้นถนนแห้ง เหมาะสำหรับรถที่ใช้ ความเร็วสูงในการขับขี่ หรือการแข่งขัน ด้วยส่วนผสมคอมพาว์ดสูตรใหม่ช่วย ให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนดีเยี่ยม ตั้งแต่สัมผัสพื้นถนน โดยไม่ต้องทำการ วอร์มเปิดหน้ายาง.
ยางรุ่นนี้มีดัชนีความเร็วตั้งแต่ V, W,Y
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการเลือกใช้ยางตามลักษณะการขับขี่คือการเลือกยางคุณภาพดี ยางรถยนต์ ที่ดีที่สุด ที่คุณจะตัดสินใจใช้งาน จะต้องเหมาะสมกับการขับขี่ หากรักความเร็ว หรือรักในการแข่งขันความเร็วคุณจำเป็นต้องเลือกยางรถยนต์ที่เหมาะกับการขับขี่ ซึ่งสามารถดูได้จากสัญลักษณ์ตัวอักษรที่แก้มยาง ที่สำคัญ ควรเลือกยางรถยนต์คุณภาพดี จาก Toyo Tires และขับขี่อย่างปลอดภัย
แม้ขับด้วยความเร็วนะครับ