หลายคนอาจคิดว่าการไม่ค่อยใช้รถหรือจอดทิ้งไว้เฉย ๆ นาน ๆ น่าจะช่วยประหยัดยางรถยนต์ เพราะไม่มีการเสียดสีกับพื้นถนน แต่ความจริงแล้ว “การจอดรถนานเกินไป” กลับเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ยางเสื่อมเร็วกว่าที่คิด โดยเฉพาะผู้ที่จอดรถคอนโดนานหลายสัปดาห์ รถคันที่สองที่แทบไม่ค่อยขับ หรือรถที่จอดทิ้งไว้ช่วงเดินทางต่างประเทศ
บทความนี้จะอธิบายว่าทำไมยางถึงเสื่อมแม้รถไม่ได้วิ่ง และจะทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายครับ
1) น้ำหนักรถกดทับจุดเดิม ทำให้ยาง “เป็นราบ (Flat Spot)” 🧱
เวลารถจอดทิ้งไว้เป็นเวลานาน หน้ายางจะถูกน้ำหนักรถกดทับบริเวณเดิมซ้ำ ๆ ไม่ขยับไปไหน ทำให้เนื้อยางบริเวณนั้นเกิดการแบนหรือ “เป็นราบ” ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในรถที่จอดนิ่งหลายวันหรือหลายสัปดาห์
อาการที่พบได้เมื่อขับออกหลังจากจอดนิ่งนาน ๆ คือ
-
รถสั่นที่ความเร็วต่ำ–กลาง
-
เสียงดังจากยาง
-
รู้สึกเหมือนยาง “กระดก ๆ”
บางครั้งอาการจะหายไปเมื่อยางอุ่นขึ้น แต่ถ้าจอดนิ่งนานหลายเดือน ยางอาจเสียรูปถาวรและต้องเปลี่ยนใหม่ทันที
2) แรงดันลมยางลดลงเองเมื่อจอดนาน ทำให้ไหล่ยางสึกและยางบวม 🌀
ลมยางจะลดลงเล็กน้อยตามธรรมชาติทุกเดือน แม้ไม่ได้ใช้รถ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงบ่อย เช่น ชั้นลานจอดรถที่ร้อนตอนกลางวันและเย็นตอนกลางคืน
เมื่อรถจอดนานแบบลมยางอ่อน จะเกิดผลเสียดังนี้:
-
หน้ายางถูกกดให้แผ่กว้างผิดปกติ
-
น้ำหนักรถถ่ายลงด้านข้างยางมากขึ้น
-
เนื้อยางบริเวณไหล่รับภาระหนักจนเกิด “ยางบวม” หรือ “เส้นลวดขาด”
นี่เป็นเหตุผลที่หลายคนงงว่า “ทำไมรถไม่ค่อยได้ใช้ แต่ยางกลับพังเร็วกว่าปกติ”
3) ยางเสื่อมตามอายุ แม้ไม่เคยวิ่งเลยก็ตาม 🕒
เนื้อยางเป็นวัสดุที่เสื่อมสภาพเองตามเวลา ไม่ต่างจากสินค้าอื่น เช่น หนัง พลาสติก หรือยางในเครื่องใช้ไฟฟ้า แม้ตั้งทิ้งไว้เฉย ๆ ก็เสื่อมได้
แสงแดดในลานจอด, ความชื้น, ความร้อน หรือแม้แต่สภาพอากาศในที่จอดใต้ดิน ล้วนทำให้
-
เนื้อยางแข็ง
-
เกิดรอยแตกเล็ก ๆ ที่เรียกว่าผิว “Crack”
-
ยางหมดอายุการใช้งานเร็วกว่าที่ควร
ดังนั้นรถที่จอดนิ่งในคอนโด 1–2 ปีมีโอกาสต้องเปลี่ยนยางใหม่แม้ดอกยางยังเต็มอยู่ก็เกิดขึ้นได้จริง
4) จอดที่เดิมซ้ำ ๆ ทำให้เกิด “การสึกเป็นจุด (Spot Wear)” 🔧
แม้ไม่ได้ขับ ยางก็ยังมีแรงกดลงบนพื้นในรูปแบบเดิมเสมอ ทำให้บริเวณหนึ่งของยางรับน้ำหนักมากกว่าบริเวณอื่นนานเกินไป
ผลลัพธ์คือ
-
ดอกยางสึกไม่เท่ากัน
-
ยางมีเสียงดังเมื่อออกวิ่ง
-
อาจนำไปสู่การล้มศูนย์ของล้อ
-
สุดท้ายต้องเสียค่าเปลี่ยนยางเร็วกว่าที่คิด
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมรถที่ไม่ค่อยใช้ มักมีปัญหาดอกยางสึกแบบผิดรูปมากกว่ารถที่วิ่งทุกวันเสียอีกครับ
5) ถ้าไม่อยากให้ยางเสียเร็วเวลาจอดทิ้งนาน ต้องทำอย่างไร? 🛠️
ต่อให้ต้องจอดรถนิ่ง ๆ เป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน ก็ยังป้องกันความเสียหายได้ด้วยวิธีง่าย ๆ เหล่านี้
✔ 1. เติมลมยางให้มากขึ้นเล็กน้อยก่อนจอด
เพิ่มขึ้นประมาณ 2–3 psi เพื่อรองรับน้ำหนักรถที่กดบนจุดเดิมนาน ๆ
✔ 2. ขยับรถทุก 1–2 สัปดาห์
ขยับล้อไปข้างหน้า–หลังเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอ ลดปัญหา Flat Spot ได้มาก
✔ 3. อย่าจอดบนพื้นที่ลาดเอียงหรือพื้นขรุขระ
แรงกดไม่สม่ำเสมอทำให้ยางเสียรูปเร็วกว่าสภาพปกติ
✔ 4. ตรวจลมยางทุกครั้งก่อนใช้งานหลังจากจอดนาน
เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากยางอ่อนหรือบวมโดยไม่รู้ตัว
✔ 5. ใช้ยางที่เนื้อยางทนทานต่อสภาพอากาศและความร้อนสะสม
ยาง TOYO หลายรุ่นถูกพัฒนาให้คงสภาพได้นานแม้ในรถที่ใช้งานไม่บ่อย โดยเน้นโครงสร้างที่แข็งแรง ทนร้อน และลดการเสียรูปของดอกยาง เหมาะกับผู้ที่จอดรถคอนโดหรือใช้รถคันที่สองเป็นประจำ
สรุป: รถจอดนิ่ง ๆ อาจทำร้ายยางมากกว่าที่คิด 📌
แม้รถไม่ได้วิ่ง แต่ยางยังต้องรับน้ำหนักรถตลอดเวลา การจอดนานเกินไปทำให้เกิดทั้ง
-
ยางเป็นราบ
-
ยางบวม
-
ลมยางลด
-
เนื้อยางเสื่อมตามอายุ
-
ดอกยางสึกแบบผิดรูป
ดังนั้นการดูแลเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนจอดนานคือสิ่งที่ช่วยยืดอายุยางและเพิ่มความปลอดภัยได้อย่างมาก เมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยนยาง การเลือกยางรถยนต์ที่ออกแบบมาให้ทนสภาพจอดนิ่งและใช้งานในเมืองอย่าง TOYO จะช่วยให้ขับมั่นใจขึ้นและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวครับ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของ TOYO ได้ที่
🔎 ค้นหายางที่เหมาะกับรถคุณ: https://toyotires.in.th/products/1/list
🏪 รายชื่อศูนย์บริการทั่วประเทศ: https://toyotires.in.th/branches/list
🎉 โปรโมชั่นล่าสุด: https://toyotires.in.th/promotions/list
🗞️ ข่าวสารและกิจกรรม: https://toyotires.in.th/news/list

