เริ่มกันมาที่หัวข้อ ดอกยาง ของยางรถยนต์ แบบไหน เหมาะกับหน้าฝน ?
คนใช้รถทุกคน ย่อมรู้จัก และคุ้นเคยกับหน้าฝน และการขับขี่ ที่ต้องเพิ่มการระมัดระวังเข้าไปเป็นอีกเท่าตัว ด้วยสภาพถนนที่ลื่น และมีน้ำขัง บวกกับสกิลการขับรถที่ต้องหลบหลีก สิ่งที่ไม่คาดคิดอีกหลายอย่าง นอกจากทักษะในการขับขี่ สิ่งที่เป็นฮีโร่ให้กับรถของเราอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือ ยางรถยนต์ ทุกคนรู้จักยางรถยนต์ แต่น้อยคนที่จะทราบ และรู้จักยางรถยนต์แบบลึกซึ้ง ว่าโครงสร้างของยางรถยนต์หนึ่งเส้นนั้น ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง และ ดอกยางของเรา มีผลกับการขับขี่อย่างไร ในวันนี้ เราจะมาเล่าให้ฟัง
เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะเข้าเนื้อหาหลัก เรามารู้จัก โครงสร้างยางคร่าวๆ ว่าประกอบไปด้วยอะไรบ้าง อันดับแรกเลยคือ หน้ายาง (Tread) ,ไหล่ยาง (Shoulder) , แก้มยาง (Sidewall) , โครงยาง (Carcass), ผ้าใบเสริมหน้ายาง หรือเข็มขัดรัดหน้ายาง (Breaker or Belt) และ ขอบยาง (Bead)
แล้วดอกยางของเรา อยู่ในโครงสร้างไหน ?
ดอกยางที่เราพูดกันจนชินหู คือ ส่วนหนึ่งของหน้ายาง
สำหรับยางรถยนต์แล้วนั้น หน้ายางรถยนต์ จะเป็นส่วนที่สัมผัสพื้นถนนตลอดเวลา และในขณะที่รถแล่นไปบนถนน มี 2 ส่วนประกอบที่สำคัญ
ซึ่งจริงๆ แล้ว มีทั้งส่วนที่สัมผัสกับพื้นถนน และไม่สัมผัสพื้นถนน คือดอกยางและร่องยาง ซึ่งทั้งสองส่วนบนหน้ายางนี้ คือสิ่งสำคัญเพื่อทำให้ยางรถยนต์มีคุณสมบัติด้านการยึดเกาะถนน ทั้งบนถนนแห้ง และเปียก หรือมีน้ำท่วมขัง
ดอกยาง ร่องยางคืออะไร ทำหน้าที่อะไร?
ดอกยาง (Tire Tread) และร่องยาง (Tire Grooves) เป็นส่วนสำคัญของยางรถยนต์ ที่มีหน้าที่สำคัญในการรักษาความปลอดภัย และควบคุมประสิทธิภาพ ในการขับรถ ดอกยางคือส่วนบริเวณหน้ายาง ซึ่งมีหน้าสัมผัสพื้นถนนตลอดเวลาที่รถวิ่ง โดยสิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับดอกยางบนหน้ายางก็คือร่องยาง ซึ่งเป็นร่องที่ลึกลงไปจากหน้ายางหรือร่องที่แทรกอยู่ระหว่างดอกยางไม่ได้มีส่วนที่สัมผัสกับพื้นถนนนั่นเอง
เพื่อความเข้าใจมากขึ้น เรามาดูกันว่า ดอกยางกับร่องยาง มีประสิทธิภาพในแง่ไหนกันบ้าง
ดอกยาง
ดอกยางคือส่วนที่มีลายดอกหรือร่องลึก ลายดอกยางมีรูปแบบ และการจัดเรียงต่าง ๆ ซึ่งช่วยให้ยางมีประสิทธิภาพในสภาพถนนและการขับขี่ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น โดยรูปแบบของลายดอกยาง จะมีผลต่อการยึดเกาะ, การระบายน้ำ, ความนิ่ง, และประสิทธิภาพในการขับขี่ทั่วๆไป
ร่องยาง
ร่องยางคือช่องว่างระหว่างดอกยาง ของยางรถยนต์ ร่องยางมีหลายประเภทและรูปแบบ แต่หน้าที่หลักคือ การระบายน้ำ ออกจากพื้นถนน เมื่อยางมีการสัมผัสกับพื้นถนน ช่วยลดความเสี่ยงในการลื่นเมื่อถนนเปียก และเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำทำให้คงที่นั่นเอง
หากพูดว่า ดอกยางมีผลต่อการยึดเกาะ การระบายน้ำ แท้จริงแล้วดอกยางนั้นมีกี่ประเภท ?
ลายดอกยางมีด้วยกันหลายประเภท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้รถ
- ลายดอกยางแบบทางเรียบ
มีลายดอกที่เท่ากันทั้งด้านซ้ายและขวา มักมีความยึดเกาะดีในสภาพถนนแห้งและทางราบ
- ลายดอกยางแบบทางฝน
ลายดอกนี้มีทิศทางเฉพาะและออกแบบมาเพื่อความยึดเกาะในสภาพถนนเปียก มีรูปลักษณะคล้ายกับลายเส้นคลื่น
- ลายดอกยางแบบไม่สมมาตร
ลายดอกนี้มีลายที่ต่างกันระหว่างด้านซ้ายและขวา เพื่อให้ประสิทธิภาพในการเร่งและการเบรกที่ดี
- ลายดอกยางแบบแกนกลาง
มีลายดอกที่เน้นที่ส่วนกลางของยาง เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเร่งและควบคุมที่ดี
- ลายดอกยางแบบระบายน้ำ
มีร่องลายที่ลึกและกว้างเพื่อระบายน้ำออกจากพื้นถนน ทำให้ความยึดเกาะดีในสภาพถนนเปียก
- ลายดอกยางแบบที่มีลายลูกศร
ลายดอกนี้มีรูปลักษณะคล้ายลูกศร และออกแบบมาเพื่อความยึดเกาะในการเร่ง และควบคุมรถ
- ลายดอกยางแบบออฟโรด
ลายดอกนี้มี ร่องลึกและลายดอกขนาดใหญ่ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการขับรถ ในเส้นทางออฟโรดและสภาพถนนลาดชัน
ไม่ใช่เพื่อความสวยแต่ลายดอกยาง แท้จริงแล้วมีประโยชน์กว่าที่คิด มีประโยชน์อะไรบ้าง มาดูกันเลย
- ช่วยในเรื่องการยึดเกาะ
ลายดอกยาง ช่วยเพิ่มความยึดเกาะ ระหว่างยางและถนน โดยเฉพาะในสภาพถนนแห้งและเปียก การระบายน้ำ และการเสียดทาน บนพื้นถนน ที่สัมผัสกับลายดอกยางช่วยให้รถยนต์มีความยึดเกาะได้ดีกว่า
- การระบายน้ำ
ลายดอกยาง มีรูปแบบที่ช่วยในการระบายน้ำออกจากพื้นถนน ในสภาพฝนตกหรือถนนเปียก
ลายดอกยางที่ดี จะช่วยลดความเสี่ยง ในการลื่นเมื่อถนนเปียก - ความนิ่ง
ลายดอกยาง ช่วยให้รถยนต์มีความนิ่งในการขับขี่ รองรับสภาพถนนที่ต่างระดับกัน บนตำแหน่งต่าง ๆ ของลายดอกยาง - ช่วยเรื่องLoad Support
ลายดอกยาง สามารถออกแบบเพื่อรับน้ำหนักของรถยนต์ และผู้โดยสาร จึงมีความสำคัญมากในเรื่องความปลอดภัย และการควบคุม ในการขับขี่
- เสียง และความสบาย
ลายดอกยาง สามารถออกแบบ เพื่อลดเสียงที่เกิดขึ้นในระหว่างการขับขี่ และเพิ่มความสบายในการขับขี่ได้ ทั้งนี้หมายถึง ลายดอกยางที่เราเห็นมีผลกับเสียงที่จะเกิดขึ้นได้
เช่น ยางออฟโรด และยางขับขี่ในเมือง ลายดอกยางต่างกัน สมรรถนะต่างกัน เสียงรบกวนย่อมต่างกันนั่นเอง
หน้าฝนของไทย เป็นอะไรที่เลี่ยงไม่ได้ แล้วจะเลือกลายดอกยางอย่างไร
ให้เหมาะในสภาพถนนเปียก หรือ ฝนตก ?
คำตอบคือ เราควรเลือกลายดอกยางที่ออกแบบมา เพื่อรองรับสภาพถนนเปียก หรือลายดอกยางที่มีการระบายน้ำได้ดีเยี่ยม โดยทั่วไปแล้วลายดอกยางที่เหมาะกับ สภาพหน้าฝน คือลายดอกยางที่ระบายน้ำได้ไว มีร่องระบายน้ำขนาดใหญ่ หรือลายดอกยางทั้งแบบสมมาตรและไม่สมมาตร จะมีประสิทธิภาพดีในสภาพถนนเปียกด้วยการระบายน้ำออกจากพื้นถนนอย่างดี มักมีรูปลักษณะ คล้ายกับลายเส้นคลื่นและมีทิศทางเฉพาะ ช่วยในการระบายน้ำ ออกจากพื้นถนนอย่างดีเมื่อถนนเปียก โดยลายดอกยางมักมีร่องลายที่วางอยู่ในทิศทางเดียว และมีรูปแบบสำหรับการนำน้ำออกจากลายดอกยาง
ลายดอกยางแบบไม่สมมาตร คือลายดอกยางที่ต่างกัน ระหว่างด้านซ้ายและขวาของยาง ซึ่งช่วยให้มีความยึดเกาะที่ดีในการเร่ง และมีการควบคุมที่ดี ในสภาพถนนเปียกและที่สำคัญ อย่าลืมตรวจสอบสภาพดอกยาง อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่ายางรถยนต์ของคุณพร้อมสำหรับการขับขี่ในสภาพฝนตกและน้ำขังบนถนน
ซึ่งยางที่รีดน้ำได้ดี ต้องดูอย่างไร ?
อันดับแรกเลย เราต้องดูที่ประเภทของยางรถยนต์ และ จะต้องเป็นยางที่นำเข้า หรือผลิต จากบริษัทที่ดี และได้มาตรฐาน อย่าง Toyo Tires โดยทั่วไป ยางที่จะรีดน้ำได้ดี จะเหมาะกับการขับขี่ในแบบทั่วไป ไม่ได้เฉพาะเจาะจง อย่างเช่นยางสลิค หรือยางรถแข่ง ประสิทธิภาพในการรีดน้ำ อาจจะด้วยกว่า แต่แลกมาด้วยสมรรถนะดีที่ การเกาะถนนที่ดีเยี่ยมมากกว่า เพราะฉะนั้น รีดดีหรือไม่ดี อยู่ที่ว่า เราใช้ยางรถยนต์ประเภทไหนนั่นเอง
หากไม่ได้เจาะจงการใช้งานแบบสุดจัดไปในด้านใดด้านหนึ่ง โดยทั่วไปแล้ว ยางรถยนต์ ToyoTires
ยางรถยนต์คุณภาพดี ที่จะมีประสิทธิภาพในการรีดน้ำที่ดีเยี่ยมแทบทุกรุ่น เพราะเราเชื่อว่า สมรรถนะที่ดี ต้องมาพร้อมความปลอดภัยเสมอ
ในวันนี้เราจะมาแนะนำให้รู้จัก ยางรถยนต์จาก Toyo Tires ยางรถยนต์ที่ดีที่สุด ที่มีคุณสมบัติเฉพาะ ในการระบายน้ำออก ได้อย่างดีเยี่ยม และรวดเร็ว
- PROXES Comfort IIs ลักษณะดอกยางแบบไม่สมมาตร (Asymmetric Pattern) ที่มี Flexible taper groove และโครงสร้างยางออกแบบพิเศษ จึงให้ทั้งความนุ่มนวล และการระบายน้ำออกได้อย่างดีเยี่ยม
- Proxes ST III ยางสปอร์ตพรีเมียมสายพันธุ์ใหม่ สำหรับรถ SUV / CUV สมรรถนะสูง ดีไซน์ แก้มยาง ที่โดดเด่น โฉบเฉี่ยว เป็นเอกลักษณ์ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพ การเบรก บนถนนเปียก ได้อย่างดี ดอกยาง ทรงลูกศร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในการทรงตัว และการระบายน้ำ ออกจากกลางหน้ายาง ได้รวดเร็ว ลดอาการเหินน้ำ มาพร้อม ร่องรีดน้ำ ดีไซน์ใหม่ล่าสุด ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ในการระบายน้ำปริมาณมากออกจากหน้ายาง ได้รวดเร็วขึ้น ผนังร่องดอกยาง แบบคลื่น ช่วยปรับผิวสัมผัสของหน้ายาง ให้อยู่ในระนาบเดียวกัน กับพื้นผิวถนน ในขณะรถวิ่งและเบรก ช่วยให้หน้ายางสึกเสมอกัน และเพิ่มประสิทธิภาพการเบรก ให้ดีขึ้น ยึดเกาะแม่นยำ
- Proxes Sport ยางสไตล์สปอร์ต ประสิทธิภาพสูง อัดแน่นด้วยเทคโนโลยี การออกแบบบล็อกดอกยางใหม่ล่าสุด เพื่อที่สุดของทุกการควบคุม ช่วยให้การยึดเกาะบนถนนแห้ง และ เปียกเป็นไปอย่างดีเยี่ยม มั่นใจขณะเข้าโค้ง แม้ด้วยความเร็วสูง ควบคุมฉับไว ทุกการขับขี่ ด้วยเทคโนโลยี T.MODE ที่ใช้ในการออกแบบลายดอกยาง และโครงสร้างยาง สำหรับรถยนต์ที่มีพละกำลังสูง
- Proxes TR1 ยาง Sporty Ultra สมรรถนะสูงรุ่นใหม่ล่าสุดที่นำเอา 2 สุดยอดยางสายพันธุ์สปอร์ต มารวมตัวกัน ด้วยเอกลักษณ์ลายดอกยางแบบไม่สมมาตร จากยาง Proxes Sport และ ลายดอกยางแบบ V-Shape Design จาก Proxes T1R มาออกแบบร่วมกัน เป็นดอกลายดอกยางแบบไม่สมมาตร ที่เป็นเอกลักษณ์โฉบเฉี่ยว ไม่ซ้ำใคร เพื่อการควบคุมที่สมบูรณ์แบบบนทุกพื้นผิว
- Proxes CR1 มากกว่าความนุ่ม…เงียบ กับที่สุดของสมรรถนะ บนถนนเปียกขีดสุดแห่งการควบคุม ให้การเดินทางที่ผ่อนคลาย อย่างมีระดับตลอดเส้นทาง มาพร้อม ร่องดอกยางระบายน้ำขนาดใหญ่ 4 ช่อง เพิ่มการระบายน้ำออกจากหน้ายาง ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ประสิทธิภาพ บนถนนนเปียกดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้ จึงสรุปได้ว่า ดอกยางที่เหมาะ ที่จะใช้ขับขี่ ในหน้าฝนนั้น เราจะต้องพิจารณา ในเรื่องของลายของดอกยาง , ร่องระบายน้ำ ประเภทของยางรถยนต์ , มาตรฐานของแบรนด์ที่ผลิต , เทคโนโลยีต่างๆ ซึ่งลายดอกยางที่เหมาะสม คือ ลายดอกยางแบบสมมาตร และ ไม่สมมาตร ร่องระบายน้ำขนาดใหญ่ ที่ออกแบบมาพร้อมเทคโนโลยี ที่เหมาะสม มาตรฐานการผลิต ต้องมาจากบริษัทที่เชื่อถือได้ มีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีการผลิต ที่ยอดเยี่ยม เทคโนโลยี ในส่วนของการออกแบบลายดอกยาง ที่ดีเยี่ยม และที่สำคัญ ที่จะมองข้ามไปไม่ได้เลย นั่นคือการขับขี่อย่างมีสติ เพื่อความปลอดภัย ระมัดระวัง ในการขับขี่ วางแผนการเดินทาง ตรวจเช็กสภาพรถทุกครั้ง มีน้ำใจ ให้เพื่อนร่วมทาง ก็ช่วยลดอุบัติเหตุในช่วงหน้าฝนได้มากขึ้นนั่นเอง